"เคี้ยวหมากฝรั่ง" วิธีการลดกลิ่นปากที่อันตราย


ปัจจุบันมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการลดกลิ่นปาก โดยการเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม ซึ่งสองวิธีการนี้สามารถช่วยลดกลิ่นปากได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น การลดกลิ่นปากอย่างมีประสิทธิภาพควรเริ่มต้นจากการหมั่นดูและทำความสะอาดช่องปาก
เป็นประจำตามสูตร 2-2-2 ตามที่กรมอนามัยได้คิดค้นเอาไว้

         “2” ตัวแรกนั่นคือ การแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง เวลาเช้าและก่อนเข้านอน และต้องแปรงให้สะอาดทั่วถึงทุกซอกทุกมุม  ท่านสามารถอ่านรายละเอียดวิธีการแปรงฟันอย่างถูกต้องได้โดยคลิกที่นี่ค่ะ ที่สำคัญควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันฟันผุ




2” ตัวต่อมาคือ ระยะเวลาในการแปรงอย่างน้อย 2 นาทีเพื่อให้แน่ใจว่าเพียงพอที่จะแปรงฟันให้สะอาดครบทุกซี่และทุกด้านของฟัน และทำให้สารฟลูออไรด์ในยาสีฟันช่วยทำปฏิกิริยากับฟันป้องกันฟันผุอย่างได้ผล

2” ตัวสุดท้าย คือ ห้ามรับประทานอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะอาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำอัดลม และอาหารที่มีน้ำตาลมาก เช่น ลูกอมหรือขนมหวาน เพราะอาหารรสหวานจะมีปริมาณของน้ำตาลสูง เมื่อน้ำตาลทำปฏิกริยากับสารในน้ำลายจะกลายเป็นสารเหนียวที่ชื่อว่า เด็กซ์แทรนส์ (dextrans) เกาะแน่นอยู่ที่ผิวฟัน สารนี้เองเป็นอาหารโปรดของแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุ (หรือแมงกินฟันที่เราชอบเรียกกันนั่นเอง) แบคทีเรียเหล่านี้จะเปลี่ยนเด็กซ์แทรนส์ให้เป็นกรดกัดกร่อนฟันของเราให้ผุ ดังนั้นหลังจากรับประทานขนมหวานควรรีบแปรงฟันทันที

นอกจากนั้นการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำจะช่วยทำให้เราทำความสะอาดซอกฟันได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ไหมขัดฟันแท้ที่จริงแล้วคือ เดนทอลฟลอสส์ (dental floss) เป็นเส้นใยที่ผลิตจากไนล่อนมีความอ่อนนุ่มไม่ทำอันตรายแก่เหงือก รวมถึงการจิบน้ำสะอาดบ่อยๆ ก็ช่วยให้กลิ่นปากลดลงได้เช่นกัน




สำหรับคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อช่วยลดกลิ่นปาก จะเห็นได้ว่าน้ำตาลในหมากฝรั่งเป็นตัวต้นเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก นอกจากนั้นการเคี้ยวหมากฝรั่งยังทำให้ได้รับอันตรายจากสารกันเสีย (PBA) และสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเอสปาร์แตม (aspartame) ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกายเกินกว่า 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวแล้วจะทำให้เป็นมะเร็งและทำให้มีผลเสียต่อสมองอีกด้วย นอกจากนั้นสารซูคลาโลสที่มีการโฆษณาว่าให้แคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลมาก หากได้รับเกิน 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวก็จะทำให้เป็นอันตรายต่อต่อมไทรอยด์ ตับ และไตเช่นกัน

ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้หมากฝรั่งหรือลูกอมในการลดกลิ่นปาก เพราะนอกจากจะลดกลิ่นปากได้ไม่ถาวรแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้กลิ่นปากแรงขึ้นอีกด้วย การลดกลิ่นปากที่ถูกต้องควรใช้หลัก 2-2-2 แปรงฟันให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 2 นาที และไม่รับประทานอาหารพวกขนมหวานและน้ำอัดลมหลังแปรงฟันแล้ว 2 ชั่วโมง เพื่อสุขภาพปากและฟันที่ดีของท่านค่ะ



ที่มา http://www.dent.psu.ac.th/unit/dhadmin/index.php/2013-02-18-09-21-18/141-2013-07-26-02-12-08
กรมอนามัย
http://aspicyperspective.com/wp-content/uploads/2012/01/IMG_4789.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh38Gs_YaxnUWs0460_RAjDpsZFMd3XQA7YHzud-JE6SbQcYhYclm5xqkK_46mUvjuzdW7_1p4ouDP8ZdArDmi0Cj1viTBzfJe7NxMl0zux8qGXdo-pq3aAVdljB2AFFStcacibj_8lzx8/s1600/122226.jpg

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตรรักษาสิวที่หลังแบบธรรมชาติ ลองเอาไปทำดูน่ะ

กินเพื่อลดน้ำหนักอย่างได้ผลในระยะยาว!

คุณประโยชน์ของ Quinoa